การใช้งานฮีตเตอร์อินฟราเรดควรพิจารณาดูลักษณะการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก ว่าชิ้นงานที่ต้องการให้ความร้อนมีลักษณะแบบใด พื้นที่ที่ต้องการควบคุมการใช้งานมีขนาดเท่าไร อุณหภูมิที่ต้องการให้ถึงได้เท่าไร ระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน ลักษณะการควบคุมที่ต้องการเช่นการควบคุมด้วยไฟฟ้าหรือทางกล ขนาดของตัวตัดกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ รวมถึงความรู้และประสบการณ์ในการใช้งานของบุคคลที่จะควบคุมการใช้งานด้วย เมื่อมีข้อมูลทั้งหมดนี้แล้ว จึงสามารถกำหนดการใช้งานของฮีตเตอร์อินฟราเรดได้อย่างเหมาะสม

ข้อควรรู้ก่อนการใช้งาน

• เมื่อให้ความร้อนแบบอินฟราเรด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตัววัตถุจะต้องดูดซับรังสีได้ดี ดังนั้น วัตถุบางชนิดที่มีผิวมันวาวหรือมีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงได้ดีจะไม่เหมาะสำหรับใช้ความร้อนแบบนี้
• หากต้องการควบคุมอุณหภูมิ ควรพยายามวางหัววัดอุณหภูมิ (เทอร์โมคับเบิล)ให้ใกล้วัตถุมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หรือใช้หัววัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด
• เมื่อติดตั้งฮีตเตอร์อินฟราเรด ควรติดตั้งคู่กับโคมสะท้อนแสง เพราะนอกจากช่วยสะท้อนความร้อนได้ดีแล้วยังช่วยป้องกันไม่ให้หลอดแตกหักอีกด้วย
• การเลือกใช้ฮีตเตอร์อินฟราเรดที่ทำจากเซรามิกหรือแก้วควรเป็นไปตามความเหมาะสมของการใช้งาน

ประโยชน์การนำไปใช้งาน ฮีตเตอร์อินฟราเรด

ฮีตเตอร์อินฟราเรดเป็นตัวกำเนิดแสงอินฟราเรดซึ่งเป็นแสงที่มีคลื่นยาวที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามนิยม อยู่ในช่วง 2-10 ไมครอน รังสีคลื่นความยาวนี้จะทำให้โมเลกุลของวัตถุที่ได้รับรังสีนี้เข้าไปเกิดการสั่น ซึ่งก่อให้เกิดความร้อนขึ้น หลักการนี้จะมีประสิทธิภาพมากเมื่อนำไปประยุกต์ใช้กับวัตถุที่มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ หรือวัตถุที่มีโมเลกุลเกาะเรียงกันเป็นแถวยาว เช่น สี, กาว, อาหาร, พลาสติก, แลกเกอร์ใช้ในการอบแห้ง เช่น อบสี, กาว, กระดาษ, อบแห้ง เมล็ดพันธุ์พืช หรือ อบไล่ความร้อน เป็นต้น หรือ ให้ความร้อนพลาสติกให้อ่อนตัวก่อนนำเข้าไปเป่า หรือขึ้นรูปด้วยสุญญากาศ